ในความสัมพันธ์ในการจ้างงานมักมีสถานการณ์เกิดขึ้นเมื่อจำเป็นต้องย้ายไปยังตำแหน่งอื่นในกรณีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวหรือถาวรในการทำงานของพนักงาน การถ่ายโอนไปยังตำแหน่งอื่นเป็นการเปลี่ยนแปลงในหน่วยโครงสร้างที่บุคคลนั้นทำงาน (อาจเกิดขึ้นพร้อมกันกับการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่ของแรงงาน) ซึ่งอาจเป็นการโอนย้ายไปยังพื้นที่อื่นกับนายจ้าง การย้ายไปยังตำแหน่งอื่นสามารถเริ่มต้นได้โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในสัญญาจ้าง ขั้นตอนนี้สามารถดำเนินการได้โดยได้รับความยินยอมจากพนักงานเท่านั้นยกเว้นในกรณีที่มีการโอนชั่วคราวเมื่อดำเนินการในกรณีที่เกิดจากเหตุฉุกเฉินบางอย่าง
การย้ายพนักงานไปยังตำแหน่งอื่นควรแยกแยะจากการเคลื่อนย้าย ในกรณีนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่ของแรงงานและสถานที่อยู่อาศัยและที่ทำงานเงื่อนไขของสัญญาจ้าง การย้ายและการย้ายใด ๆ ควรกระทำเฉพาะในงานที่ไม่มีข้อห้ามสำหรับบุคคลด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ
การย้ายพนักงานชั่วคราวไปยังตำแหน่งอื่นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งโดยข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่ายและไม่ได้รับความยินยอมจากพนักงาน ในกรณีแรกระยะเวลาของการย้ายจะ จำกัด อยู่ที่หนึ่งปีหรือระยะเวลาที่ไม่มีพนักงานหลักซึ่งมีการย้ายตำแหน่งทดแทนไปยังตำแหน่งอื่นชั่วคราว สามารถทำได้ในช่วงระยะเวลาของการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรของพนักงานประจำ หากในระหว่างการย้ายชั่วคราวบุคคลนั้นไม่ได้กลับไปยังที่ทำงานเดิมของเขาและเขาไม่ต้องการให้เขากลับมาการย้ายชั่วคราวจะกลายเป็นแบบถาวร
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ภัยพิบัติไฟไหม้epizootics น้ำท่วมอุบัติเหตุอุบัติเหตุ ฯลฯ ) บุคคลสามารถโอนชั่วคราวได้นานถึง 1 เดือนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเขา นอกจากนี้ยังสามารถแปลโดยไม่ได้รับความยินยอมเพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์ฉุกเฉิน (การหยุดทำงานความเสียหายต่อทรัพย์สิน) หากงานใหม่มีคุณสมบัติต่ำกว่าการแปลดังกล่าวจะต้องดำเนินการมากหลังจากได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้น การชำระเงินสำหรับการโอนชั่วคราวที่เกิดจากสถานการณ์ฉุกเฉินต้องเป็นรายได้เฉลี่ยอย่างน้อยหรือสูงกว่าหากงานที่ทำมีราคาแพงกว่า
ขั้นตอนที่เรียกว่าสภาวะสุขภาพของมนุษย์ ในกรณีนี้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานตามความเห็นทางการแพทย์จะต้องเสนอกิจกรรมอื่นที่นายจ้างมีและไม่มีข้อห้ามสำหรับบุคคล การดำเนินการสามารถทำได้โดยได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบุคคลเท่านั้น หากพนักงานปฏิเสธหรือไม่มีงานดังกล่าวในองค์กรบุคคลนั้นจะถูกพักงานตามกฎโดยไม่มีการจ่ายเงิน หากต้องใช้เวลานานกว่านี้ (มากกว่า 4 เดือน) หรือต้องมีการย้ายถาวรหากบุคคลนั้นปฏิเสธหรือไม่ทำงานเขาอาจถูกไล่ออก ข้อยกเว้นในกรณีนี้คือสตรีมีครรภ์หรือคนงานประเภทอื่น ๆ ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายในสถานการณ์เช่นนี้
